กลับถึง Remember Inn ผมแวะไปถามถึงเสื้อผ้าที่ส่งซัก….ได้มาแล้วครับ
มีกางเกงขายาว กางเกงขาสั้น และเสื้อเชิ้ต อย่างละ ๑ ตัว เค้าคิด ๑,๐๐๐ จ๊าด หรือประมาณ ๔๐ บาท ผมจ่ายค่าน้ำดื่มที่ค้างไว้ ๑ ขวด (๓๐๐ จ๊าด) ด้วย ถ้าไม่จ่ายเค้าก็ไม่รู้!
ก่อนเที่ยง ผมอาบน้ำสระผม แล้วแต่งตัวด้วยกางเกงขาสั้นลูกฟูกที่ซักมาใหม่ จัดของลงเป้ โดยไ่ม่ลืมตรวจสอบว่าจะไม่ลืมอะไรไว้ (ก้มดูใต้เตียงด้วย) เรียบร้อยแล้วก็เอากุญแจไปคืน ผมบอกว่าจ่ายทุกอย่างแล้วนะ เค้าไม่ถามอะไรเลย ง่ายดีจังโรงแรมนี้! เป็นโรงแรมที่ไม่เห็นป้ายกำหนดเวลา check out คงเป็นเพราะแขกที่จะมาใหม่มักจะมาถึงตอนเช้ามืด นอกจากให้นอนฟรีตอนเช้ามืดแล้วและยังให้กินอาหารเช้าฟรี…แถมให้ใช้โรงแรมเป็นที่พักรอเวลาได้ถึงบ่ายสามโมงโน่น…
ผมเดินตามหา Tha Aung ช่างไม้ผู้มอบไม้เกาหลังให้ ไปถึงบนดาดฟ้า…แต่ไม่เจอ เมื่อถามเจ้าหน้าที่สาวที่ office เธอก็พาไปพบ Tha Aung ซึ่งกำลังทำงานอยู่ในห้องเล็ก ๆ ด้านหน้าโรงแรม ผมบอกว่าจะกลับไปย่างกุ้งแล้วนะ ขอมอบแผ่นซีดี Piano Lovers Op.1 ให้ไว้เป็นที่ระลึก…
พอทราบว่าผมกำลังจะไป Shwe Nyaung Junction Tha Aung ก็ผละงาน คว้าเป้ของผมขึ้นสะพายหลัง แล้วเดินตัวปลิวนำผมไปยังคิวรถปิกอัพ…
ผมหยุดถ่ายภาพ “Welcome to Inlay” ไว้เป็นที่ระลึกด้วย ช่วงเที่ยงยังไม่มีรถไป Shwe Nyaung Junction ผมเห็นปิกอัพจอดเป็นแถว เป็นรถที่ผลิตในประเทศจีน (ราคาถูกกว่ารถมอเตอร์ไซค์ซึ่งผลิตในประเทศไทย)
Tha Aung พยายามถามหารถที่จะไป Shwe Nyaung Junction แต่ยังไม่มี เขาอุตส่าห์นั่งเป็นเพือนอยู่เกือบชั่วโมง พอบ่ายโมงถึงได้ลากลับไปทำงาน…
ผมขอถ่ายภาพ Tha Aung ไว้เป็นที่ระลึก ๑ บาน ก่อนที่เขาจะเรียกคนขับปิกอัพซึ่งกำลังนอนพักผ่อน ให้มาช่วยกดชัตเตอร์ถ่ายภาพเราสองคน….
หลังจากจับมืออำลา ผมมองดู Tha Aung เดินจากไป บอกตัวเองว่าถ้ามีโอกาสจะต้องกลับมาเที่ยวอินเลอีก…
ผมนั่งรอไปเรื่อย ๆ อีกครึ่งชั่วโมง คนขับปิกอัพคนหนึ่งก็มาทำท่าจะแบกเป้ไป ผมถามว่าค่ารถเท่าไหร่ เค้าบอกว่าคนละ ๑ พันจ๊าด โอเค…ผมให้หิ้วเป้ไปวางไว้บนรถปิกอัพซึ่งจอดอยู่หน้าโรงแรมร้าง Hu Pin..
ด้านข้างมีปิกอัพอีกคันหนึ่ง ผมเห็นชายคนหนึ่งนอนหลับอย่างเอาเป็นเอาตาย…
ด้านหลังมีครอบครัวชาวอินทานั่งอยู่ ผมคิดว่าคงไม่ได้รอรถที่จะไป Shwe Nyaung Junction หรอก!
ต่อมามีนักท่องเที่ยวสาวชาวญี่ปุ่นมาเสริม ๑ คน เธอจะไป Shwe Nyaung Junction เช่นเดียวกัน เห็นขึ้นนั่งรอบนรถแล้วหยิบหนังสือออกมาอ่าน ผมคิดว่าเธอ traveling light จริง ๆ คือมีแค่เป้สะพายหลังขนาดไม่ใหญ่นัก ดูคล่องตัวมาก ๆ
ปิกอัพยังคงจอดรอ คนขับเรียกหาผู้โดยสารอยู่เรื่อย ๆ แต่ไม่มีใครมา…
อากาศไม่ร้อน มีลมเย็นพัดมาเอื่อย ๆ ผมนั่งจดบันทึกอย่างไม่รีบร้อน จนกระทั่งบ่าย ๓ โมงก็มีหญิงพม่า ๒ คนแม่ลูกมาเพิ่ม แล้วตามด้วย backpacker ฝรั่งชาวออสเตรเลียอีก ๑ คน คนขับรถมาถามผมว่าคนละ ๑,๕๐๐ จ๊าดได้ไหม…จะได้ออกรถเลย ผมโอเค! อยากออกไปสำรวจ Shwe Nyaung Junction มากกว่านั่งรออยู่อย่างนี้
พอผมขึ้นนั่งบนรถ… คนขับก็ติดเครื่องแล้วบังคับรถให้ทะยานออกไปทันที
ลาก่อน Nyaung Shwe ที่รัก…