ในสวนสาธารณะเจ้าอนุวงศ์ นครเวียงจันทน์ ผมเห็นภาพแม่ลูกคู่นี้แล้ว ต้องหยุดยืนน้อมศีรษะแสดงคารวะ ก่อนที่จะบันทึกภาพเก็บไว้…
อดคิดถึงแม่ปราณีไม่ได้ ครั้งสุดท้ายที่ผมมีโอกาสได้เข็นรถให้แม่ ก็คือที่โรงพยาบาลลำปาง เย็นวันนั้นพาแม่ไปหาหมอ แม่ดูท่าอ่อนเพลียไม่น้อย ตั้งแต่นั้นมา…ผมก็ไม่มีโอกาสได้ทำหน้าที่นี้อีกเลย!
ในสวนมีภาพน่าประทับใจให้เห็น…
ทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ…
ไม่ว่าจากผู้ชราหรือเด็ก ๆ…
เด็กน้อยไม่ต้องเล่น iPad หรือแท็บบ้าแท็บบอ อย่างที่ผมเห็นในเมืองไทย…
ผู้ปกครองก็ไม่ต้องนั่งจิ้มอยู่กับโทรศัพท์มือถือ…
รอยยิ้มของเด็ก ๆ ทำให้ผมมีความสุข…
อิ่มจิตอิ่มใจแล้ว…ต่อไปก็ต้องอิ่มท้องด้วย ผมเดินออกจากสนามเด็กเล่น ไปเจอร้านอาหารตั้งอยู่ริมทาง เข้าไปนั่งสั่งกินผัดไท (๑๐,๐๐๐ กีบ), ไข่ต้ม ๒ ฟอง (๘,๐๐๐ กีบ) และน้ำผลไม้ปั่นอีก ๑ แก้ว (๑๐,๐๐๐ กีบ)
มื้อนี้คิดเป็นเงินไทยตก ๑๐๔ บาท อิ่มอ่ะ!
เริ่มมีพ่อค้าแม่ค้ามาจัดซุ้มจำหน่ายสินค้า ผมก็ได้แต่เดินดู…
ได้เวลากลับที่พักแล้วล่ะ การค้นพบความจริงในนครเวียงจันทน์ของผมสิ้นสุดลง พร้อม ๆ กับดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับฟ้า….
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ได้เห็นและได้ยินในวันนี้ คงจะทำให้ผมหลับสบาย ก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทยในวันพรุ่งนี้!
“พาสปอร์ตใหม่ไปลาว ” จวนจบแล้วจ้า…