วัดสวนดอก ลำปาง

2watsuandok1

จากห้าแยกหอนาฬิกา (CT) ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คหรือจุดศูนย์กลางของจังหวัดลำปาง เพื่อน ๆ ขับรถไปตามถนนบุญวาทย์อีกประมาณ ๕๐๐ เมตรก็จะเห็น “วัดสวนดอก” [W] ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ

IMG_1505

ประตูเข้าด้านถนนบุญวาทย์อยู่เยื้องกับธนาคารธนชาต…

IMG_1506

ส่วนทางด้านถนนสวนดอกก็มีซุ้มประตูลักษณะเดียวกัน (2)…

IMG_1526w

2watsuandok2

หากเดินเข้าประตูด้านถนนบุญวาทย์ เพื่อน ๆ จะเห็นศาลเจ้าแม่กวนอิม (6) อยู่ทางด้านขวามือ…

IMG_1507

ทางด้านซ้ายมือคือ วิหารหลังใหญ่ (3)

IMG_1509w

IMG_1510w

IMG_1511

IMG_1512

ซุ้มและบานประตูลงรักปิดทองงดงามยิ่งนัก…

IMG_1514

IMG_1515

IMG_1516

IMG_1517

IMG_1518

IMG_1530

หลังคาลดหลั่น ๓ ชั้น พร้อมยอดฉัตรตรงกลาง…

IMG_1529

IMG_1519

หลังวิหาร …

IMG_1521

เห็นช่างกำลังก่อสร้างหอระฆัง (4) ตั้งอยู่ข้างวิหาร…

IMG_1524

IMG_1523

มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม (5) ด้วย…

IMG_1528

วัดนี้ไม่มีพระเจดีย์! ข้อมูลในเน็ตก็มีไม่มาก… 

A Frame A Day – เคาะประตูบ้านไฮเดิน

Franz_Joseph_Haydn
Joseph Haydn – ภาพจาก wikipedia

บ้านของไฮเดิน (Haydnhaus) ในกรุงเวียนนา อยู่เลขที่ 19 ถนน Haydngasse  เช้าวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๒๘ ผมนั่งรถรางสาย ๕๘ ไปลงในตำแหน่งที่ใกล้ที่สุดแล้วเดินไป…

PICT0113

เป็นจุดหมายแรกของการเที่ยวชมบ้านคีตกวีในวันนี้ ผมบันทึกไว้ว่า “ไปถึงปรากฏว่ายังไม่เปิดทำการ ต้องรออยู่จน ๑๐.๐๐ น. ถึงได้เข้าชม – ได้เห็นบ้านที่ไฮเดินเคยอยู่   harpsichord ที่เคยเล่น และอื่น ๆ อีกมาย – มีห้องที่เป็น memorial room สำหรับ Johannes Brahms ด้วย – มีหนังสือขายราคา ๓๐ ชิลลิง แต่ไม่ได้ซื้อ เพราะมีงบน้อย…”

PICT0050

ไฮเดินเสียชีวิตเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 1890 รวมอายุได้ ๗๗ ปี  หากผมไม่สับสน…ภาพนี้น่าจะเป็น death mask (รูปหน้าที่หล่อจากหน้าจริงเมื่อตายแล้ว) ของไฮเดิน

PICT0107

PICT0116

PICT0117

PICT0055

PICT0111W

ถ้าชอบเพลงคลาสสิกก็ต้องรักไฮเดิน การได้มาเดินอยู่บนบ้านของบิดาแห่งซิมโฟนีจึงเป็นความประทับใจสุด ๆ ของผม!

A Frame A Day – เคาะประตูบ้านเบโธเฟน

เพื่อน ๆ เชื่อหรือไม่ว่าเมื่อ ๓๑ ปีแล้ว บ้านของเบโธเฟนในกรุงเวียนนายังคงไม่ได้รับการปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์งดงามทันสมัยเหมือนในปัจจุบันนี้  เมื่อปี ๒๕๒๘ ผมได้มีโอกาสไปยืนอยู่หน้าประตูบ้านของเบโธเฟนแล้วนะ (แต่ไม่ได้เคาะ)

PICT0095

Ludwig van Beethoven เกิดที่กรุงบอนน์เมื่อปี ค.ศ. 1770  เดินทางมาเวียนนาครั้งแรกตอนอายุ ๑๗ ปีเพื่อพบกับโมสาร์ท และกลับมาอีกครั้งเมื่ออายุ ๒๒ ปีซึ่งเป็นช่วงที่โมสาร์ทเสียชีวิตแล้ว เบโธเฟนได้ศึกษากับ Joseph Haydn แล้วใช้ชีวิตอยู่ในเวียนนาเป็นเวลา ๓๕ ปี จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อปี 1827

PICT0017
ฺBeethoven’s Pasqualatihaus – บันทึกเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๒๘

ทุกวันนี้นี้มีบ้านสามหลังของเบโธเฟนในกรุงเวียนนา ที่ถูกจัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ คือ Pasqualatihaus, Apartment in Heiligenstadt และ Eroica House  (ที่มา – wien.info) 

2beethovenhouse0

2beethovenhouse1

๖ มิถุนายน ๒๕๒๘  ผมบันทึกไว้ว่า…

จากบ้านของ Haydn เดินไปตามถนน Stumber แล้วขึ้นรถเมล์สาย 57A ไปเยือน Beethoven Apartment ที่เ่บโธเฟนเคยเช่าอยู่ในปี 1822/1823  – เดินไปตามทางมืด ๆ ไม่พบอะไร เพราะสถานที่นั้นเป็นของเอกชน เค้าจะเปิดให้ชมเป็นช่วง ๆ เท่านั้น – แค่นั้นก็พอใจแล้ว เพราะคิดว่าได้เดินบนเส้นทางที่เบโธเฟนเคยเดินในอดีต…

ไปที่บ้านของเบโธเฟนอีกหลังที่ถนน Doblinger เป็นบ้านที่เบโธเฟนอาศัยอยู่ในขณะที่แต่งซิมโฟนีหมายเลข ๓ โดยตั้งใจที่จะอุทิศให้แก่นโปเลียน แต่ด้วยความผิดหวังในตัวนโปเลียนจึงได้เปลี่ยนชื่อเสียใหม่เป็น Eroica  บ้านหลังนี้จึงถูกขนานนามว่า House of Eroica  ตอนที่ไปถึงนั้นเกือบจะเที่ยงวันแล้ว คนเฝ้าสถานที่กำลังนั่งหลับอยู่ – เข้าไปชม ถ่ายรูป และลงชื่อในสมุดเยี่ยม ก็ยังไม่รู้สึกตัว – ตอนเดินออกมาก็ยังนั่งหลับอยู่

ภาพ Eroica House ที่สแกนได้จากฟิล์มสไลด์ยังคงดูพอใช้ได้ครับ…

PICT0054

มีอีก ๓-๔ บาน…

PICT0092

รูปหน้าที่หล่อจากหน้าจริงเมื่อตายแล้ว (death mask) ของเบโธเฟน…

PICT0365

PICT0090W

PICT0091

PICT0121

ชื่นชอบเบโธเฟน…ต้องยอมรับว่าผมมีความสุขกับการมาเยือนครั้งนี้จริง ๆ

A Frame A Day – เคาะประตูบ้านโมสาร์ท

PICT0100

เพื่อน ๆ ที่รักครับ… ช่วงเดินทางในออสเตรียเมื่อปี ๒๕๒๘  ผมได้แวะเยือนบ้านของโมสาร์ททั้งใน Salzburg และ Vienna แต่จำไม่ได้ว่าภาพที่ปรากฏอยู่ในฟิล์มสไลด์อายุ ๓๐ ปีที่กำลังสแกนอยู่นั้นถ่ายจากที่ไหนกันแน่?  เอาเป็นว่าครั้งหนึ่งในชีวิตผมได้ไปเห็นบ้านของโมสาร์ทคีตกวีเอกของโลกมาแล้วละกัน!

PICT0101

เดือนมิถุนายน ๒๕๒๘  ผมบันทึกว่า…

เดินไปยัง Mozarts Geburtshaus ซึ่งอยู่บนถนน Getreidegasse – แวะซื้อโพสต์การ์ดระหว่างทาง ๑ ใบ (๓.๕๐ ชิลลิง) – จ่ายค่าเข้าชมบ้านเกิดโมสาร์ท ๑๕ ชิลลิง (ตั๋วนักเรียน) –  ในอาคาร ๓ ชั้น ชั้นแรกเป็น special exhibition, ชั้นสองเป็น Mozart and Opera ส่วนชั้น ๓ เป็น Home of Mazart Family – มีโอกาสได้เห็นห้องที่เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นห้องที่โมสาร์ทเกิด – ได้เห็นห้องครัว ห้องนั่งเล่น ฯลฯ…

จากนั้นก็ไปยัง makartplatz  เพื่อเยี่ยมชม Mozart-Wohnhaus  ซึ่งอยู่เลขที่ 8  makartplatz เป็นบ้านหลังที่สองของครอบครัวโมสาร์ท – ไปถึงเหลือเวลาอีก ๑๕ นาทีก็จะปิด แต่ก็ได้ชมจนเป็นที่พอใจ (ค่าผ่านประตู ๗.๕๐ ชิลลิง) ได้เห็นทั้งเครื่องดนตรีเก่า, สกอร์เพลง และสมบัติของโมสาร์ท…

mozart

น่าเสียดายที่เค้าไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ไม่งั้นคงมีภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้ดูบ้าง!

A Frame A Day – ถนนบาห์นฮอฟ (Bahnhofstrasse)

วันก่อนเขียนเรื่องศูนย์การค้าหรูที่ Queen Victoria Building ในนครซิดนีย์  วันนี้ “A Frame A Day” ขอพาเพื่อน ๆ ไปเดินเที่ยวถนนบาห์นฮอฟ (Bahnhofstrasse) ถนนช้อปปิ้งในเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วยกัน…

2zurich1

“ถนนบาห์นฮอฟ (Bahnhofstrasse) เป็นถนนย่านการค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บนเส้นทาง ๑.๔ กิโลเมตรจากอนุสาวรีย์หน้าสถานีรถไฟ ผ่าน Paradeplatz ไปยังทะเลสาบ เป็นถนนที่มีรางเดินรถรางอยู่กลางถนน สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นไม้สูงใหญ่ เรียงรายด้วยธนาคาร ร้านค้าและห้างสรรพสินค้า กล่าวกันว่าถนนสายนี้เป็นถนนช้อปปิ้งที่แพงที่สุดในโลก!! 

2zurich2

วันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๒๘ ผมไปเดินมาแล้วครับ บันทึกภาพไว้ด้วย ๒ บาน….

blv-in-zurick-w

สินค้าแบรนด์ดัง อาทิ Armani, Gucci, Prada. Rolex, Cartier, Tiffany ฯลฯ อยู่ที่นี่หมด…

PICT0049

ดีใจที่ครั้งหนึ่งในชีวิตมีโอกาสได้เดินวินโดว์ช้อปปิ้งบนถนนสายนี้!

A Frame A Day – Fraumünster Church

หลังจากประมูลได้เครื่องสแกนฟิล์มตัวใหม่มา… ผมก็เริ่มลงมือสแกนฟิล์มสไลด์ซึ่งได้จากทริปไปยุโรปเมื่อปี ๒๕๒๘ ทันที!

IMG_1412

จำได้ว่าตอนนั้นผมใช้กล้อง Pentax K1000  มีฟิล์มสไลด์ซื้อจากร้านถ่ายรูปในเชียงใหม่ไปด้วย ๖ มัวน เป็นยี่ห้อโกดักและอั๊กฟ่าอย่างละครึ่ง…

Pentax_K1000
Pentax K1000 – ภาพจาก commons.wikimedia.org

เพื่อน ๆ ที่รักครับ!  ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาและรู้สึกไม่ค่อยสบาย แต่ก็ยังอยากจะเขียนบล็อก exploring the world ให้ต่อเนื่อง โชคดีที่ได้ไฟล์จากการสแกน ผมขอกลับไปเขียนในรูปแบบ A Frame A Day คือหยิบภาพจากการสแกนขึ้นมา ๑ บานแล้วเขียนถึง วันนี้ได้ภาพ Fraumünster Church ที่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ครับ…

PICT0066
Fraumünster Church – บันทึกด้วยฟิล์มสไลด์อั๊กฟ่า เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๒๘

PICT0315

2zurichsee

วันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๒๘ ผมนั่งรถไฟจากมิลานถึงซูริค ได้บันทึกไว้ว่า…

รถออกจากสถานีมิลานช้ากว่ากำหนดครึ่งชั่วโมง กว่าจะถึงซูริคก็เกือบ ๓ ทุ่ม รู้สึกช็อคเมื่อพบว่าเงิน ๑,๐๐๐ บาทพอมาถึงที่นี่มีค่าเท่ากับ ๑๐๐ บาทเท่านั้น เหรียญสวิสขนาดเหรียญห้าบ้านเรามีค่าถึง ๕๐ บาท มาถึงซูริคก็มืดแล้ว ข้อมูลต่าง ๆ ก็ไม่มี จึงตัดสินใจว่าจะนั่งรอจนถึงเช้า (มีฝรั่งหลายคนเจอปัญหาไม่มีที่พักเหมือนกัน) อากาศหนาวเย็น นับตั้งแต่เดินทางมาไม่เคยเจอแบบนี้ สถานีรถไฟปิดตอน ๒ ยาม ไปนั่งในที่พักผู้โดยสารรถรางก็มีฝรั่งขี้เมามากวนจะชวนให้ไปพักที่บ้าน  ต้องหลบลงไปที่ทางเดินใต้ดิน เห็นชายคนหนึ่งอาศัยนอนอยู่ในตู้โทรศัพท์สาธารณะ พอดีมีหลายตู้จึงเข้าไปนอนบ้าง ทำให้ไม่หนาวเท่าไหร่ แต่ก็ต้องนอนขดตัวจนปวดเมื่อยไปทั้งตัว…

เช้าวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๒๘  หลังจากได้ข้อมูลและแผนที่จาก tourist office นำเอาเป้ไปฝากเก็บที่ Left-Luggage Locker  (โชคดีที่เป้ใส่ได้พอดี) หยอดเหรียญลงไป ๑ ฟรังก์ (๑๐.๕๐ บาท) ตู้จะล็อค สามารถดึงเอาลูกกุญแจออกมาเก็บไว้ได้ จากนั้นก็ออกเดินเที่ยวพร้อมกับกล้องคู่ใจ…

2fraumunster-church1

ได้บันทึกไว้ว่า…

ยามเช้าเช่นนี้บรรยากาศดีมาก มีทางเดินเลียบริมน้ำ เค้าทำเป็นที่พักผ่อนไว้ตลอดแนว มีคนเดินเล่น บ้างก็ขี่จักรยาน บางคนนอนอยู่บนเก้าอี้ยาว หนุ่มสาวบางคู่กอดกันอย่างมีความสุข  จากทะเลสาบซูริค หรือ Zürichsee  (1) มีแม่น้ำ Limmat  (2) ไหลผ่าน แบ่งระหว่างซูริคเก่ากับซูริคใหม่ ถนนสองฝั่งแม่น้ำ Limmat ดูเข้าท่าดี  มี Fraumünster Church วิหารสไตล์ Gothic – มองเห็นหอสูงมียอดแหลมสีฟ้าได้แต่ไกล…

เพื่อน ๆ ดูภาพสไลด์ข้างบนอีกครั้งนะครับ…

2fraumunster-church

พอดีมีภาพเก็บตกริมแม่น้ำ Limmat อยู่ในฟิล์มสไลด์ ๓-๔ บาน จึงขอนำมาโพสต์ไว้ด้วยดังนี้…

PICT0040

PICT0038

PICT0039

PICT0112

PICT0041

Fraumünster Church…. นึกว่าจะเขียนสั้น ๆ แต่ก็ยาวเหมือนกันแฮะ!

Royal Clock – Queen Victoria Building

2sydney-tower1

จากหอคอยซิดนีย์ (1) ผมเดินแค่ ๔๐๐ เมตรก็ถึงตึกควีนวิกตอเรีย (2)  เมื่อมาถึงซิดนีย์แล้ว…ไม่ได้ไปคงไม่ได้!

2qvb1

อาคารแห่งประวัติศาสตร์และทรงคุณค่าด้านสถาปัตยกรรมบนถนนจอร์สซึ่งกินพื้นที่เต็มบล็อคถนนนั้นถูกสร้างไว้บนบริเวณที่เป็นตลาดประจำเมืองเมื่อปี ค.ศ. 1986   ด้วยความใหญ่โตประดุจมหาวิหาร…อาคารนี้ได้รับการบูรณะในปี 1986 แล้วเปิดใหม่ให้เป็นศูนย์การค้า ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในเวลาต่อมา   พอดีไม่มีรูป ผมจึงต้องหาจากอินเทอร์เน็ต นำมาแต่งเป็นภาพสีน้ำให้เพื่อน ๆ ดู ๑ บานดังนี้…

qvb

นอกจากร้านค้าชั้นนำแล้วยังมีภัตตาคารและคาเฟ่หรูให้ผู้คนไปเดินเที่ยวพักผ่อนและดื่มกิน สิ่งหนึ่งซึ่งทุกคนต้องได้เห็นคือนาฬิกาโบราณที่มีชื่อว่า “Royal Clock”  ซึ่งวิกิพีเดียกล่าวถึงว่า…

The “Royal Clock” is located on the upper level of the southern half of the Queen Victoria Building in Sydney, Australia. It was designed by Neil Glasser and made by Thwaites & Reed of Hastings in England, and when activated, displays scenes of English royalty. The plaque on the side of the clock reads “By appointment to Her Majesty Queen Elizabeth II. Turret Clockmakers Thwaites & Reed Ltd Hastings England”.

The clock activates on the hour from 9 am until 9 pm. Each performance begins with the music of the trumpet voluntary as miniature trumpeters emerge from the tops of each of the clock’s four outer turrets. The trumpeters withdraw at the end of the voluntary. The six scenes are viewed (one at a time) through windows on both sides of the clock that face the railed walkways. Each scene briefly illuminates to display a diorama of English royal history, before dimming and rotating to the left in preparation for the next scene.

ผมไปเห็นมาแล้วครับ มีรูปมาให้เพื่อน ๆ ดูด้วย…

queen-victoria-1

พูดถึง Royal Clock – Queen Victoria Building แล้ว…ผมคิดถึงบาห์นฮอฟ (Bahnhofstrasse) ถนนสายซ็อปปิ้งแพงที่สุดในโลกที่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และหอนาฬิกา Glockenspiel ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน… 

หอคอยซิดนีย์

ผู้ใดไปเยือนนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย อย่างน้อยก็ต้องมีสักครั้งที่ได้ขึ้นไปชมวิวจากยอดหอคอยซิดนีย์ (Sydney Tower) เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่ไปกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งคงไม่มีใครพลาด Twin Towers

ST

วิกิพีเดียให้ข้อมูลว่า…

หอคอยซิดนีย์ (Sydney Tower) คือสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในเมืองซิดนีย์ สูงเป็นอันดับสองของประเทศออสเตรเลีย รองจากตึกคิววันในเมือง Gold Coast และยังเป็นหอสังเกตการณ์สูงที่สุดเป็นอันดับสองของซีกโลกใต้ (Southern Hemisphere) รองจาก Sky Tower เมือง Auckland ประเทศนิวซีแลนด์  หอคอยมีความสูง ๓๐๙ เมตร เหนือศูนย์กลางเขตธุรกิจเมืองซิดนีย์ ตั้งอยู่บน Market Street ระหว่าง Pitt และ Castlereagh Street สามารถเข้าถึงได้จากส่วนถนนคนเดินของ Pitt Street ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งที่มีคนเดินมากที่สุดในออสเตรเลีย…

2sydney-tower1

๓๐ ธันวาคม ๒๕๓๑ ผมบันทึกไว้ว่า…

เดินไป centrepoint – ถึงจุดขึ้นลิฟท์ขึ้นไปจุดชมวิว – เสียค่าผ่านประตู ๔ เหรียญ (นำเงินสดไปแลกเหรียญมาหยอดให้เครื่องกั้นเปิดออก) – ขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนสุดใช้เวลา ๔๐ วินาที – จากข้างบนสามารถมองเห็นเมืองซิดนีย์ได้รอบทิศ – มีเขียนบอกว่าลวดสลิงที่ใช้ต่อกันแล้วมีความยาวจากซิดนีย์ไปจนถึงนิวซีแลนด์ (??) – มีร้านขายของที่ระลึก – ร้านอาหาร – สถานีวิทยุโทรทัศน์

สมัยนั้นใช้กล้องฟิล์มครับ เก็บภาพไว้ได้แค่บานสองบานเอง…

centrepoint1

อย่างน้อยก็มีภาพวิวเบื้องล่างที่เงาหอคอยทาบลงไป…

centrepoint2

centrepoint3

ชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้ไปหาเธออีกแล้ว…ซิดนีย์ที่รัก!

HARTOP (Davies Craig)

hartop

หมวกกันน็อคสำหรับใส่ปั่นจักรยานใบแรกของผมเป็นหมวกซึ่งผลิตในออสเตรเลียยี่ห้อ Hartop (Davies Craig) แฟร้งค์ สมิธ พี่ชายชาวออสซี่ซื้อให้ที่ Sydney เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๑  บวกลบแล้วคำนวณอายุได้เกือบ ๓๐ ปี…

cyclist helmet 1

cyclist helmet 2

เอากลับมาเมืองไทยด้วย หลังจากให้พี่ชายไปใส่ได้หลายปี…ผมก็ยึดคืนมาใช้เอง  ตอนปั่นไปลาวเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมาเจ้า Hartop ก็ไปด้วยกัน!

tip2laos3

ภาพข้างล่างถ่ายที่สถานีรถไฟหลักสี่ ในวันไปร่วมงาน wedding concert ของน้าหมอนที่กรุงเทพฯ…

142

ก่อนหน้านั้นมันมีรอยแตก…ผมใช้กาวตราช้างซ่อมเอาไว้  จนกระทั่งสิ้นสุด FB Trip ไปสารภี มันก็หมดอายุไข

IMG_1395

อยากให้เพื่อน ๆ ได้เห็นประโยชน์ของการจดบันทึก วันนี้ผมขอเขียนถึงเหตุการณ์เมื่อ ๒๘ ปีที่แล้วหน่อยนะครับ

frank's-house
บ้านของแฟร้งค์ในซิดนีย์

๕ ธันวาคม ๒๕๓๑…  ๘ โมงเช้า แฟร้งค์มาบอกว่าวันนี้จะพาไปร้านจักรยานเพื่อหาซื้อเครื่องมือและอะไหล่มาซ่อมจักรยานเสือหมอบคันเก่าของเขา อาหารเช้าวันนี้มี Muesli กับนมสด

ครัวที่ใช้ทำอาหารเช้า
ครัวที่ใช้ทำอาหารเช้า
รถโฟล์คเต่าของแฟร้งค์
รถโฟล์คเต่าของแฟร้งค์

จากบ้านที่ Dulwich Hill แฟร้งค์ขับรถโฟล์คเต่าพาไปยัง super mart ขนาดใหญ่ติดแอร์เย็นฉ่ำใน Marrickville…

marickville

มีสินค้าจำหน่ายมากมาย จักรยานก็มี ซื้อกระติกน้ำ ๑  ใบราคา ๔.๔๙ เหรียญ แฟร้งค์ออกตังค์ให้ แถมยังซื้อ Muesli Bar และโดนัทให้อีก!  จากนั้นก็พาไปร้านจักรยานร้านหนึ่ง ซื้อของ ๔ อย่างคือ หมวกกันน็อค ($45)  สูบลม ($5) ยางนอก ๒ เส้น ($15) และเครื่องมืออีก ๑ ชุด ($25) รวม $90

ได้บันทึกไว้ว่า “กลับบ้าน – เอาของลง – Fix up เปลี่ยนยางใหม่ล้อหน้าและล้อหลัง – สูบลม – หยอดน้ำมัน – ปรับอานให้ต่ำลง – ใส่จารบี – ติดตั้งที่ใส่กระติกน้ำ – จักรยานของแฟร้งค์ใช้งานได้แล้ว”

bed-in-the-garage
ที่นอนที่แฟร้งค์จัดให้นอนในโรงรถ ทริปนี้ผมใช้เป้สีส้ม…

บ่ายวันนั้น สวมหมวกกันน็อคที่แฟร้งค์ซื้อให้…ผมปั่นจักรยานท่องไปทั่ว ตกเย็นถึงได้กลับบ้าน!

อุโบสถเขมินโทไชยมงคล วัดจองคา

“วัดไชยมงคลหรือวัดจองคา” ยาวหน่อยนะครับ!   ต่อจากวิหารและพระเจดีย์ ผมขอปิดฉากเรื่องนี้ด้วยภาพอุโบสถเขมินโทไชยมงคลซึ่งสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๒

070

067

066

069

061

มองหาใบเสมา ผมเห็นแท่นสีขาวอยู่หน้าอุโบสถ มีรูปปั้นสุนัขพันธุ์ขนปุยผูกโบว์แดงนั่งสองขาอยู่ข้างบน เกิดความสงสัยว่ามันคืออะไรกันแน่??

064

065

เดินดูรอบ ๆ โบสถ์ เห็นรูปปั้นบนแท่นสีขาวซึ่งอยากจะเรียกว่าแท่นเสมา ขอนำภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้พิจารณา

048

จริงอยู่ที่ว่าก้อนศิลาก้อนเดียวก็ใช้กำหนดเป็นขอบเขตพัทธสีมาได้  อย่างเนี้ยถ้าเป็นแท่นเสมาจริง ผู้สร้างก็คงมีอารมณ์ขันพอสมควรจึงใช้รูปปั้นลักษณะแปลก ๆ และแตกต่างมาวางไว้…

082

087

094

101

จะว่าเป็นรูปปั้นปีนักษัตรซึ่งมีกันทั่วไป แต่ที่นี่มันผสมผเสกันทั้งขนาดและท่าทาง จนมิอาจเข้าใจในความคิดของผู้สร้าง!!

108

จากบันไดนาค ผมมองเห็นพระบรมธาตุเกศาไชยมงคล…

061

แหงนหน้าขึ้นเก็บภาพบนเพดานมาฝากเพื่อน ๆ

079

071

075

077

080

081

083

084

091

ด้านหลังอุโบสถ…

095

096

097

049

052

มีรูปปั้นฤาษีดัดตนอยู่ข้างผนังโบสถ์โดยรอบ…

053

ผมมองเห็นการปรับพื้นที่โดยรอบพระบรมธาตุ เกิดคำถามในใจว่าการปรับภูมิทัศน์ตามที่เขียนประกาศไว้นั้นได้รับการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญกรมศิลปากรหรือเปล่า?

073

อีกไม่นานคงจะได้เห็นกันว่าจะออกมาในรูปแบบใด!