เรียนฟรี มันก็เป็นเช่นนี้แหละ!

เมื่อผมได้รับการติดต่อให้ไปสอนเครื่องสายให้กับเด็กๆ ชั้น ม.๑ ที่โรงเรียนลำปางกัลยาณี ตารางสอนคือทุกวันศุกร์ตั้งแต่เวลา ๑๒.๓๐ น. จนถึง ๑๔.๓๐ น. อาจารย์ผู้ติดต่อถามว่าผมคิดค่าสอนชั่วโมงละเท่าไร ผมบอกว่าชั่วโมงละ ๒๕๐ บาท ครั้งหนึ่งก็ตก ๕๐๐ บาท เดือนหนึ่งก็รวมเป็น ๒,๐๐๐ บาท ผมขอเบิกเงินค่าสอนล่วงหน้าก่อน ๓ เดือน (คิดว่าสามเดือนก็พอเพียงแล้วสำหรับการวางพื้นฐานให้กับเด็ก) เป็นเงิน ๖,๐๐๐ บาท ทางผู้จ้างก็อนุมัติ…

เริ่มไปสอนตั้งแต่วันศุกร์ที่ ๔ มิถุนายน…ผมไม่เคยไปสายแม้แต่ครั้งเดียว ทุกครั้งผมจะมีวิโอล่าไปด้วย พร้อมกับหนังสือและโน้ตเพลงที่จะแจกให้เด็ก จากข้อตกลงว่าจ้าง ๒ ชั่วโมง ผมตั้งใจว่าจะอยู่สอนต่ออีก ๒ ชั่วโมง (ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง) ผมไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเพราะมีความสุขที่ได้สอน แม้ว่าจะยาวต่อเนื่องกันถึง ๔ ชั่วโมง ผมยืนและเคลื่อนไหวอยู่หน้าชั้น ทั้งร้องและพูดแข่งกับเสียงวงโยฯ ซึ่งซ้อมอยู่ด้านนอก ในวันแรกนั้น เด็กๆ ดูท่าทางเอาจริงเอาจัง  ทำให้ผมมีความหวัง…

ครั้งต่อๆ มา นักเรียนเริ่มล้าลง พอสองโมงกว่าๆ บางคนก็ลากลับ สมาชิกวงเริ่มไปไม่ครบ ไม่มีใครอยากอยู่ต่อ ทำให้ผมไม่ต้องอยู่จนถึง ๔ โมงครึ่งอย่างที่ตั้งใจไว้ (นอกจากวันแรกที่ผมช่วยดูเครื่องให้)  อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะไปสอน  ตั้งใจว่าจะสอนไปเรื่อยๆ จนถึงสิ้นเทอม หาได้ใยดีว่าสอนครบ ๑๒ ครั้งแล้วจะต้องหยุด

วันที่ ๒ กรกฎาคม นักเรียนคนหนึ่งมาขอให้ผมช่วยไปสอนเพิ่มเติมในทุกๆ วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๙ โมงเช้าถึงเที่ยง ผมตอบรับโดยไม่ลังเล ไม่ได้คิดว่าจะต้องได้รับค่าจ้างเพิ่มเติม ผมอยากทำให้เพื่อเป็นวิทยาทานสำหรับผู้ที่มีความสนใจ

ในกรณีที่ไปสอนวันอาทิตย์ ผมจะต้องเตรียมตัวแต่เช้า จัดเตรียมโน้ตเพื่อไปถ่ายเอกสารให้นักเรียน หรือไม่ก็พิมพ์ไปจากบ้าน(ถ้าเครื่อง printer ไม่รวน) นอกจากนั้นผมยังต้องหอบเปียโนไฟฟ้าไปด้วย เพื่อให้การเรียนการสอนมีประสิทธิำภาพยิ่งขึ้น วันอาทิตย์ผมจึงจำเป็นต้องใช้รถยนต์แทนการควบเจ้าแมงกะไซค์คู่ยาก…

อาิทิตย์แรกที่ไปสอน นักเรียนอยู่กันเกือบจะพร้อมหน้า มีบางคนที่ไปเรียนไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นไร ผมสอนจนถึงนาทีสุดท้ายจึงได้เลิก…

ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมก็ไปสอนตามปกติ เที่ยงครึ่ง…ผมเปิดประตูก้าวเข้าไปในห้องดนตรี พบว่ามีเพียงผู้เล่นไวโอลิน ๒ คน วิโอล่า ๒ คน และเชลโล่ ๑ คน สิ่งที่เตรียมไว้สำหรับสอนนักเรียนต้องถูกปล่อยวางไว้ก่อน ผมได้แต่สอนให้มือวิโอล่าและเขลโล่เล่นเพลงในตำราซูซูกิ แต่ก็ดูเหมือนว่านักเรียนขาดสมาธิที่จะฝึกฝนซะแล้ว บางคนซ้อมได้นิดๆ หน่อยๆ ก็วางเครื่องของตนแล้วหันไปลองเล่นเครื่องอื่น

สามโมง เมื่อไม่มีใครอยู่เรียนต่อ ผมก็กลับบ้าน…

วันนี้วันอาทิตย์ ผมพิมพ์โน้ตเพลง March in D ของ Handel สำหรับวง Quartet ไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืนแล้ว อยากให้ทุกคนมีโน้ตของตัวเอง ไ่ม่ต้องแย่งกันอ่าน ผมหวังว่ามันจะเป็นเพลงแรกที่วง string เล็กๆ วงนี้เล่นได้ไพเราะ

ดาวน์โหลดโน้ตเพลง March in D ได้ครับ  violin I Violin II Viola Cello

นอกจากนั้นผมยังเตรียม shoulder rest ไปให้มือวิโอล่าอีกคนหนึ่งด้วย

ก่อนออกบ้าน ผมตรวจสอบให้แน่ใจว่าจะไม่ลืมอะไร   พร้อมกับวิโอล่า เปียโนไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่อพ่วง  shoulder rest กับโน้ตเพลงที่เตรียมไว้ ผมไปถึงโรงเรียนในขณะที่รายการ “คุยกับหมอโกมล” ที่ smooth radio พักเบรคช่วง ๙ โมงพอดี  พอเปิดประตูเข้าไปในห้องดนตรีปรับอากาศเย็นฉ่ำ ผมรู้สึกแปลกใจที่เห็นว่ายังไม่มีการจัดสแตนโน้ตและเก้าอี้เตรียมไว้เหมือนเช่นเคย ไม่มีนักเล่นเครื่องสายอยู่ที่นั่น ผมถามเด็กนักเรียนวงโยฯ คนหนึ่ง ก็ได้รับคำตอบว่าเห็นมีมาแค่คนเดียว  ความรู้สึกเหมือนเมื่อครั้งที่ไปสอนนักศึกษาดนตรีที่ราชภัฏ แล้วผมต้องไปรอร้อรอ ได้กลับมาหาอีกแล้ว!!!  เป็นความผิดหวังที่โถมเข้าใส่อย่างไม่ให้ได้ตั้งตัว! ผมบอกนักเรียนชายคนนั้นว่า “เมื่อไม่มีใครมา! งั้นครูกลับก่อนนะ”

แล้วผมก็ขับรถกลับบ้าน..คิดในใจว่า “เรียนฟรี มันก็เป็นเช่นนี้แหละ!”

ใส่ความเห็น