แค่เริ่มแล้วก็เลิก

เวลาผมเดินขึ้นบันได ผ่านชั้นลอยซึ่งแต่ก่อนเคยเป็นบริเวณที่พี่ชายอาศัยหลับนอน ผมก็จะเห็นเชลโล่ที่ผมตั้งเตรียมไว้เพื่อซ้อม…

“เรไร” คือชื่อที่คุณเมธีตั้งให้ มันถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอย่างนั้นมาเป็นเดือนๆ ถ้าเป็นคนก็คงจะหนีผมไปแล้ว ผมรู้สึกผิด ที่ไม่ได้แบ่งเวลาไปเล่นกับเจ้าเรไรมานานแล้ว…

สมัยที่เรียนที่วิทยาลัยพายัพ ผมเคยเล่นเชลโล่อยู่สองปี พร้อมกับพกพาความฝันที่จะเป็นเจ้าของเชลโล่สักตัวนึงเก็บไว้ในใจมาโดยตลอด แต่ทว่าในยุคนั้นเครื่องสายยังราคาแพงเกินกว่าที่่จะซื้อได้  พอจบการศึกษาผมก็เลิกเล่น เลิกสนใจเครื่องสาย ไม่เคยคิดว่าตนเองจะต้องกลับมาจับมันอีกครั้ง…

ผมเริ่มหันมาจับไวโอลินที่โรงเรียนธีรดาของครูแต้ม เพราะจำเป็นต้องรับหน้าที่สอนไวโอลินน้องตุลย์แทนครูไกรทอง จำได้ว่าผมใช้ไวโอลินราคาถูกจากจีนของทางโรงเรียนซึ่งครูแต้มซื้อมาจาก PowerBuy เป็นเครื่องมือสอน ก่อนชั่วโมงสอนผมจะแอบเอาไปฝึกสีอยู่ในห้องครัวของโรงเรียน เป็นการสอนตัวเองให้เล่นได้ ก่อนนำไปสอนนักเรียน  แต่ละครั้งผมเรียนรู้ล่วงหน้าไปเพียงไม่กี่แบบฝึกหัด…

ต่อมามีนักเรียนชายจากโรงเรียนบุญวาทย์คนหนึ่งมาสมัครเรียน ผมมีโอกาสได้สอนเพียงสองชั่วโมง นักเรียนก็เลิกเรียนไป…

จากนั้นผมก็ได้สอนน้องนินและน้องดรีม  ทำให้เกิดประกายความคิดอยากเป็นครูสอนเครื่องสายขึ้นมา ผมได้ตัดสินใจลงทุนสั่งซื้อวิโอล่าและเชลโล่จากครูสอนไวโอลินมีชื่อเสียงท่านหนึ่งซึ่งเปิดร้านอยู่ที่เชียงใหม่ด้วยเงินกว่าสองหมื่นบาท ผมรับเจ้าเรไรเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดตั้งแต่สียังไม่แห้งสนิทดี  มาถึงวันนี้ไม่มีกลิ่นวานิชจากตัวของเรไรอีกแล้ว ไม้ก็เริ่มแห้งลง แต่ผมก็คงไม่ได้พัฒนาฝีมือจากการเล่นเครื่องดนตรีที่ผมเคยฝันว่าจะได้เป็นเจ้าของให้ก้าวหน้าไปแม้แต่น้อย  ผมยังคงย่ำเท้าอยู่กับที่!!!

ไปค้นเจอภาพถ่ายขณะที่ผมนั่งซ้อมเชลโล่อยู่หลังตึกดนตรี เมื่อสามสิบปีก่อน ผมจึงได้สแกนแล้วนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดู แทบไม่น่าเชื่อว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน จากชายหนุ่มมาเป็นชายชรา บัดนี้ผมไม่มีสภาพอย่างที่เห็นในรูป ทุกอย่างล้วนเป็นอนิจจัง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนก็คือปัจจุบันนี้ผมยังคงเล่นได้แต่ position หนึ่งอยู่เหมือนเดิม หรืออาจจะแย่ลงด้วยซ้ำ

สรุปแล้ว ในชั่วชีวิตที่ผ่านมา ผมมักเป็นผู้ที่เริ่มต้นก่อน  เริ่มแล้วก็เลิก ไม่เคยประสบความสำเร็จอย่างเป็นมรรคเป็นผลจริงๆ กับเค้า ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม  อย่างเช่นเรื่องคอมพิวเตอร์ ผมเริ่มใช้คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ยุคที่ใช้ CPU Intel 8088 จอmonochrom ซึ่งถ้าเอาจริง ผมก็อาจจะเก่งในเรื่องคอมพิวเตอร์ไปนานแล้ว

ผมก็ได้แต่เพียงเริ่ม…แล้วก็เลิก

ผมไปจัดรายการวิทยุ ทำได้ปีเดียวก็เลิก โดยให้เหตุผลว่ากลัวรถชนตายตอนกลับบ้านหลังเที่ยงคืน..

เรื่องการถ่ายภาพ ผมอยากถ่ายภาพให้ได้ดีๆ และมีอุปกรณ์ที่ดีใช้ แต่ก็เป็นเพียงการเริ่มต้นแล้วก็เลิกอีก…

ผมหัดวาดภาพสีคาร์บอนและสีน้ำกับอาจารย์วุฒิที่กาดสวนแก้ว  หุหุ เริ่มเรียน…แล้วผมก็เลิก

เรียนภาษาญี่ปุ่น ผมเรียนจนเขียนอักษรได้ครบแล้วผมก็เลิกอีก!!

ไม่มีอะไรเลยที่ผมสานต่อจนประสบความสำเร็จถึงขั้นทำได้ดี  เท่าที่ทำอยู่ก็เหมือนกับว่าสุกเอาเผากิน ผมหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงมาถึงจุดที่ผมรู้ตัวเองว่า ที่ผมเป็นเช่นนี้ก็เพราะทุกอย่างที่ผ่านมาผมเพียงแค่เริ่ม แล้วก็เลิก!!!