ผมไปถึง shuttle bus เป็นคนแรก ขอถ่ายรูปหม่องคนรถไว้หน่อย…
ตามมาด้วยคนพม่าเชื้อสายอินเดีย แล้วก็มีชายหน้าตาคล้ายคนจีนพร้อมกระเป๋าเดินทางมาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ ผมยิ้มทักทายแล้วถามเป็นภาษาอังกฤษ แต่เค้ากลับไม่พูดด้วย (ต่อมาทราบว่าเป็นคนไทย) หน้าแตก อิอิ!
ก่อน ๙ โมงผมเดินไปยังร้านที่อยู่ตรงข้ามกับ shuttle bus พบชาย ๒ คนและหญิง ๑ คนกำลังยืนคุยกันอยู่ คราวนี้ไม่หน้าแตกเพราะได้ยินภาษาไทยเต็มหู หนุ่มที่มาคู่สาวเป็นคนทักทายผมก่อนโดยเรียกผมว่า “น้า” เราคุยกันถึงประสบการณ์ท่องเที่ยวพม่าที่ผ่านมา คุยไป ๆ ก็ได้รู้ว่าเป็นคนลำพูน จากนั้นการสนทนาของเราก็เปลี่ยนไปเป็น “กำเมือง” ล้วน ๆ
การคุยอย่างออกรสออกชาติทำให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงติดเครื่องบอกให้ขึ้นรถได้แล้ว….
๙.๑๕ น. คนขับเข้าประจำที่ อีก ๕ นาทีรถเคลื่อนตัว…มุ่งหน้าสู่สนามบิน
ผมเห็นป้ายข้างทางเขียนว่า “Life is a journey, complete it.” ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า?
ใช้เวลาวิ่งประมาณ ๑ ชั่วโมง ในที่สุด shuttle bus ก็ถึงสนามบิน…
ได้เห็นหอบังคับการบินอีกครั้ง…
ดูดิ…แม้แต่อาคารสนาบบินก็ยังออกแบบให้มีเอกลักษณ์ของความเป็นพม่า
ผมเดินเข้าไปในอาคารผู้โดยสาร…
แหงนหน้ามองเห็นหลังคาโปร่งแสง…
ไปเข้าห้องน้ำ ถ้าไม่มีรูปมาให้ดู…ก็คงไม่ใช่บล็อกลุงน้ำชา อิอิ!
เพื่อความกระชับ ผมขอข้ามเรื่องการเช็คอินกับแอร์เอเซีย สิ่งที่พบเห็น และขั้นตอนอื่น ๆ ไปนั่งรออยู่หน้า Gate 8 ซะเลย การเดินทางแบบตัวเบาครั้งนี้กำลังเข้าสู่บทอวสาน…
เจ้าเป้น้อยน้ำหนักไม่ถึง ๗ กิโลกรัมซึ่งได้ตะลอนไปกับผมนาน ๒ สัปดาห์ บัดนี้พร้อมที่จะเดินทางกลับบ้านแล้วครับ!